***** ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 เวลา 19.30 น.นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โดยมีทีมงานผู้สมัคร ส.ส.ของเบอร์ เริ่มเปิดเวทีโดมวิทยาลัยเกษตรสระแก้ว ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อให้ข้อมูลด้านนโยบายและโครงการที่พรรคจะดำเนินการหลังการเลือกตั้งได้นำนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค มาชี้แจงบอกเล่าให้ผู้ที่เดินทางมารับฟังการหาเสียงครั้งนี้ ได้ทราบรายละเอียด ประกอบด้วย นโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็น 700 บาทต่อเดือน พร้อมประกันชีวิต 200,000 บาทเพื่อเป็นการตัดสินใจของประชาชน
*****นอกจากนั้น ยังพูดถึงนโยบายการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งน้ำทั้งระบบ น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง ให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปีนโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน ส่งเสริมโอกาสสร้าง Soft Power เพิ่มเงินอัดฉีด SME สูงสุดถึง 5,000,000 บาท, เพิ่มรายได้ชุมชน ให้มีที่ทำกิน เชื่อมต่อการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม, และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดหย่อนภาษีผู้ประกอบการ ที่ส่งเสริมพัฒนาทักษะอาชีพ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่เขต 3 เลือกผู้สมัครหมายเลข 3 และเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 37 รวมทั้งนำแนวนโยบายการขับเคลื่อน 3 นโยบายหลัก อาทิ สวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ ตามสโลแกนของพรรค “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่” เน้นย้ำเรื่องการสานต่อนโยบาย มุ่งเน้นแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยจะเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจาก 300 บาท เป็น 700 บาท และเพิ่มเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจาก 600-700 บาท เป็น 2,000-3,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น
*****ทั้งนี้ นายสุรศักดิ์ บอกว่า แนวคิดพัฒนา เพื่อประชาชน จะมุ่งเน้นการทำงาน 7 แนวทาง 1.มุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาให้เกิดความเป็นเลิศทางวิชาการ 2.พยายามส่งเสริมพัฒนาการกีฬาตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเพื่อพัฒนาไปสู่ระดับอาชีพ 3.พยายามประสานงานภาครัฐ ตามคำร้องเรียนของประชาชน เพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภค 4.ประสานงานภาครัฐเพื่อป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด การทุจริตต่าง ๆ ภัยสังคมทุกประเภท 5.พยายามพัฒนาจังหวัดให้เจริญรุ่งเรืองกว่าจังหวัดอื่น ๆ เพราะเป็นประตูสู่อินโดจีน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต 6.พยายามป้องปรามปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดกับประชาชนตามแนวชายแดนและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยกับกัมพูชา เพื่อให้เกิดสภาวะการค้าขาย การท่องเที่ยว ให้พัฒนา และดียิ่งขึ้น และ 7.เป็นปากเสียงและผลักดัน เพื่อให้เกิดนโยบายเพิ่มราคาพืชผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งในการปราศรัยครั้งนี้ ได้มีผู้มาร่วมรับฟังนโยบายจำนวนมาก
***ภาพ/วีระยุทธ สารการ /ข่าว สมศักดิ์ สารการ /บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน